คนแห่ซื้อสินค้า กาดสวนแก้ว เชียงใหม่ หลังสู้พิษโควิดไม่ไหว ประกาศขอปิดชั่วคราว 1 ก.ค.นี้ ประชาชนจูงลูกหลานมารำลึกความหลังพร้อมจับจ่ายซื้อของลดราคา กลายเป็นภาพบรรยากาศที่คึกคักขึ้นมาถนัดตา สำหรับศูนย์การค้า “กาดสวนแก้ว” ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศเเจ้งปิดชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป สาเหตุจากผลกระทบ การแพร่ระบาดของโควิด-19 นักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก แม้ที่ผ่านมาทางห้างได้ช่วยแบ่งเบาภาระด้วยการลดค่าเช่า ค่าบริการ และผ่อนผันทุกวิถีทางเพื่อประดับประคองให้ดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เเต่ก็ยังไม่เพียงพอ
โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา เฟซบุ๊กกลุ่ม เชียงใหม่108 CM108 ก็ได้มคนเข้าไปโพสต์ภาพบรรยากาศภายในห้าง “กาดสวนแก้ว”
ที่จะเห็นว่า มีผู้คนจำนวนมาก มาซื้อของ ซื้อสินค้าลดราคา พร้อมเเคปชั่นว่า คนมาอำลากาดสวนแก้วมหาแสนมากกกก ขณะเดียวกันความเคลื่อนไหวโดยเฉพาะบัญชี เฟซบุ๊กของหลายคน ต่างก็พาโพสต์ภาพเซลฟี่กับห้างกาดสวนแก้วแล้วโพสต์ลงหน้าฟีดบรรยายถึงความรู้สึกที่มีต่อห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ของเชียงใหม่แห่งนี้กันจำนวนมาก โดยบางภาพที่มีคนเข้ามาเผยแพร่รูปบรรยากาศนั้นก็จะเห็นว่าบางร้านที่คนแห่ซื้อสินค้ากันแน่นร้านก็ได้ติดป้ายลาราคาพร้อมกับคำว่าเลิกกิจการไว้ด้วย
สุดอึ้ง! โลกโซเชียลแห่แชร์ภาพ กล่องข้าวจากกระปุกสกินแคร์ ด้านชาวเน็ตแสดงความเห็นถ้าเป็นคอนเทนต์ก็ปล่อยผ่าน แต่ห้ามทำตามเด็ดขาดเพราะอาจมีสารเคมีปนเปื้อน
ทำเอาชาวเน็ตหวั่นใจว่าจะมีคนทำตามขึ้นมาทันที หลังจากมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์รูปภาพกระปุกสกินแคร์ที่ถูกนำมาใช้เป็นภาชนะใส่ข้าวและกับข้าว งานนี้มีคนแชร์ในบนโลกออนไลน์กว่า 6.8 พันครั้ง พร้อมทั้งมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันกว่า 1.3 พันคอมเมนต์ ซึ่งหลาย ๆ คอมเมนต์ก็ได้ออกมาเตือนว่าภาชนะพลาสติกเกรดสกินแคร์กับเกรดบรรจุอาหารนั้นมีความแตกต่างกัน ใช้งานแทนกันไม่ได้
นอกจากนี้ก็ยังมีชาวเน็ตอีกจำนวนหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ถึงความอันตรายของการใช้ภาชนะใส่อาหารผิดประเภท เนื่องจากกระปุกสกินแคร์นั้นไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ทนความร้อน เมื่อเจออาหารที่อุณหภูมสูงก็อาจทำให้สารเคมีบางอย่างละลายและปนเปื้อนลงในอาหารได้ ซึ่งเป็นที่มาของสารก่อมะเร็ง อันตรายถึงชีวิต อีกทั้งบางคอมเมนต์ก็ยังกล่าวถึงการใช้กล่องใส่ไอศกรีมมาใส่อาหารร้อนด้วย ซึ่งผู้บริโภคต้องตรวจสอบให้ดีว่าภาชนะพลาสติกที่เราใช้อยู่นั้นสามารถใส่อาหารที่มีความร้อนได้หรือไม่ เพราะภาชนะพลาสติกบางอย่างก็สามารถใส่อาหารได้แต่ไม่ใช่กับอาหารที่มีอุณหภูมิสูง
การประหยัดเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ควรประหยัดให้ถูกวิธีกันด้วย ไม่อย่างนั้นอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว และทำให้เสียค่าใช้จ่ายในการรักษาจากเหตุการณ์เพียงเล็กน้อยเหล่านี้ในอนาคต ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการทำบรรจุภัณฑ์หรือภาชนะใส่อาหารออกมารองรับการใช้งานที่หลากหลาย และยังมีราคาที่สมเหตุสมผลอีกด้วย หากใครที่ได้พบเห็นคอนเทนต์แนวนี้อีก ก็ขอให้ศึกษารายละเอียดและข้อมูลต่าง ๆ ให้ดีก่อนว่าสามารถทำตามได้จริงหรือไม่ จะได้ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต
เพจดังเตือน น้ำปลาร้าดื่มไม่ได้ เสี่ยงภาวะโซเดียมสูง หลังดาว TikTok ใส่แก้วยกซด
เพจดังเตือน น้ำปลาร้าเป็นเครื่องปรุงไม่ใช่เครื่องดื่ม หากได้รับในปริมาณมากร่างกายอาจเกิดภาวะโซเดียมสูง หลังเจอ ดาว TikTok ดื่มน้ำปลาร้า
กลายเป็นกระแสไวรัลที่ถูกชาวเน็ตวิจารณ์กันมากมาย หลังผู้ใช้บัญชี TikTok รายหนึ่งสร้างคอนเทนต์ขายน้ำปลาร้า แต่ไม่ใช่การขายแบบธรรมดา เพราะผู้ใช้ TikTok รายนี้กลับเทน้ำปลาร้าในแก้วที่มีน้ำแข็ง แล้วยกขึ้นดื่มเหมือนเป็นเครื่องดื่มธรรมดาทั่วไป นอกจากนี้ยังพบว่ามีบางคลิปที่ที่ผู้ใช้ TikTok รายนี้ นำปลาร้าเทใส่ทุเรียนผสมกับนมข้มหวานแล้วใช้หลอดดูดอีกด้วย ยิ่งกว่าเปิปพิสดารเสียอีก
และล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2565 ทางเพจดังอย่าง Drama-addict ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนถึงความอันตรายของการดื่มน้ำปลาร้าแบบเพียว ๆ โดยเป็นการให้ข้อมูลทางด้านโภชนาของน้ำปลาร้า พร้อมกับผลเสียหากร่างกายได้รับในปริมาณมาก ความว่า
“มีลูกเพจส่งคลิปที่ยูทูปเบอร์สายกิน เอาน้ำปลาร้ามายกซดเหมือนเครื่องดื่มให้ดูแล้วถามว่าแบบนั้นจะเป็นไรมั้ยเนี่ย ก็เตือนพ่อแม่พี่น้องที่มีลูกหลานชอบดูยูทูปเบอร์สายกินพวกนั้นว่า อย่าทำตาม
1. น้ำปลาร้า = เครื่องปรุงรส ไม่ใช่เครื่องดื่ม ใส่ในอาหารในปริมาณเหมาะสมเพื่อความนัวๆ
2. น้ำปลาร้ามีโซเดียมสูงมาก เท่าที่สำรวจมา น้ำปลาร้า 5 ซีซี มีโซเดียมประมาณ 300-500 mg ปรกติขวดนึงก็มีปริมาณประมาณ 200-300 cc ดังนั้นน้ำปลาร้าขวดนึงนี่ โซเดียมล่อเข้าไปตั้ง 2-3 หมื่นมิลลิกรัมแล้ว
3. ปรกติคนเราไม่ควรได้รับโซเดียมเกินวันละ 2000 mg
สมมุติมีเด็กเลียนแบบ หยิบขวดน้ำปลาร้ามาซดซักครึ่งขวด ก็ได้โซเดียมไป 1-1.5 หมื่นมิลลิกรัม ประมาณ 5-7 เท่าที่ร่างกายควรได้ต่อวัน
4.ในกรณีที่เลวร้ายสุด จะเกิดภาวะ โซเดียมในเลือดสูง ซึ่งมีผลกับสมอง ทำให้สมองเสียหายจนเสียชีวิตได้ถ้ารักษาไม่ทัน เหมือนกรณีเคสรับน้อง ที่รุ่นพี่บังคับให้น้องซดน้ำปลาหรือกะปิ หลักการเดียวกัน
ดังนั้นพ่อแม่ที่มีลูกเล็กๆชอบดูพวกนี้ ให้ความรู้ให้ดีๆนะครับ พลาดขึ้นมา ลูกพิการตลอดชีวิตหรือตายได้เลยครับ”
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง